Skip to the content 
วงการลูกหนังนั้น นับว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ตั้งแต่ในยุคอดีตถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งก็มีนักฟุตบอลมากมาย ที่ประสบความสำเร็จกับอาชีพค้าแข้ง และล้มเหลวในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่แฟนฟุตบอลส่วนมาก จะจดจำเฉพาะนักเตะที่มีฝีเท้าดี และประสบความสำเร็จในอาชีพการค้าแข้ง ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นก็จะมีนักฟุตบอล ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้ง จนทำให้กาลเวลา ไม่อาจทำให้แฟนฟุตบอล หลงลืมชื่อพวกเขา วันนี้เราจะพามาดู สุดยอดนักเตะ ของแต่ละยุคแต่ละสมัย
1. ยุค 60 เปเล่
ฟุตบอลในยุคนั้นฟุตบอลเป็นฟุตบอลที่ไร้ซึ่งเทคโนโลยี รวมถึงแทคติกการเล่นที่เน้นแต่การทำประตูเป็นหลัก และกติกาสมัยนั้น ก็ยังไม่ถูกปรับปรุงให้มีความทันสมัย และยุติธรรมสำหรับทุกฝ่ายเท่ากับสมัยนี้ ซึ่งยุคนั้นมีนักเตะคนหนึ่งที่เติบโตมาจากนักฟุตบอลข้างถนน นามว่า เปเล่ ซึ่งแจ้งเกิดกับทีมชาติบราซิล ในช่วง ยุค 60 โดยพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย ฝีเท้าของ เปเล่ โดดเด่นจนทีมชาติบราซิล ได้ออกมาประกาศว่า เปเล่ เป็นสมบัติของชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้ ทีมจากยุโรป มากระชาก เปเล่ ออกจากประเทศบราซิล ซึ่ง เปเล่ นั้นก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดอาชีพการค้าแข้ง โดยลงสนามไป 560 นัด ยิงไป 541 ประตู และเป็นดาวซัลโวอันดับที่ 1 ของทีมชาติบราซิลที่ 77 ประตู
2. ยุค 70 โยฮัน ครัฟ
นักเตะสัญชาติ ฮอลแลนด์ ที่แจ้งเกิดกับสโมสร อาแจ็กซ์ ซึ่งตัวเขานั้นอยู่กับทีม อาแจ็กซ์ เกือบ 10 ปี พาสโมสรประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งฟุตบอลในประเทศ รวมไปถึงในเวทียุโรป ซึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากๆ จนตัวเขานั้นคว้ารางวัล บัลลงค์ดอร์ ในปี 1971 และย้ายมาสโมสร บาเซโลน่า ในปี 1973 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น ซึ่งพอย้ายมาบาเซโลน่า เขาก็โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี จนติดทีมชาติฮอลแลนด์ในชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 1974 และพาทีมคว้าตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็คว้ารางวัล บัลลงค์ดอร์ 2 สมัยซ้อนคือ ปี 1973 และปี 1974 จนได้รับฉายาว่านักเตะเทวดา ซึ่งพอตัวเขาแขวนสตั๊ด เขาได้ผันตัวมารับตำแหน่งโค้ช ซึ่งก็พาทีม อาแจ็กซ์ และ บาเซโลน่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก และ ได้รับการยกย่องว่า เป็นคนทำให้ระบบ Total football นั้น สมบูรณ์แบบ
3. ยุค 80 ดิเอโก้ มาราโดน่า
หากทีมชาติบราซิล มียอดนักเตะอย่างเปเล่ ทีมชาติคู่แข่งอย่าง อาเจนติน่า ก็มีนักเตะอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ซึ่งเป็นนักเตะเบอร์ 1 ตลอดกาลของทีมชาติอาเจนติน่า ซึ่งตัวของมาราโดน่านั้น เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพด้วยอายุเพียง 15 ปี และสร้างชื่อให้กับตัวเอง โดยการโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับสโมสรบาเซโลน่า ประเทศสเปน ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีก และบอลถ้วยในประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังสร้างประวัติศาสตร์กับทีมชาติอาเจนติน่า โดยการพาทัพฟ้าขาว ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1986 แต่สิ่งที่ทำให้เขาขนานนามตัวเองให้เป็นพระเจ้าแห่งโลกลูกหนังในยุคนั้นก็คือ ช่วงที่เขาเล่นให้กับสโมสร นาโปลี ในประเทศอิตาลี เพราะเขานำทีมที่ไม่มีลุ้นแชมป์อะไรเลย เป็นทีมที่แข็งแกร่งระดับหัวแถวของยุโรป โดยพานาโปลีคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย แชมป์บอลถ้วยในประเทศ 1 สมัย และแชมป์ระดับยุโรปอีก 1 สมัย โดยสิ่งที่เป็นที่ยืนยันความสุดยอดของเขานั้น ก็คือเกมฟุตบอลโลกปี 1990 ที่ทีมชาติอาเจนติน่าของเขา ลงสนามเจอกับทีมเจ้าภาพอย่างประเทศอิตาลี ซึ่งสนามที่ใช้แข่งขันก็คือ สนามเหย้าของสโมสรนาโปลี ในสนามไม่มีใครเชียร์ทีมชาติอิตาลีเลย มีแต่เสียงตะโกนเชียร์ มาราโดน่า ซึ่งนี่เป็นข้อพิสูจน์ของความสุดยอดของเขา
4. ยุค 90 -2000 โรนัลโด้
นักเตะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ของโลกฟุตบอล โดยสุดยอดนักเตะหลายๆคนได้นิยามความสุดยอดของเขาไว้ว่า ไม่มีใครสามารถหยุด โรนัลโด้ ด้วย ยกเว้นหัวเข่าของเขาเอง ซึ่ง โรนัลโด้ นั้นเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากบราซิล ที่ได้มีโอกาสมาแจ้งเกิดกับสโมสร พีเอสวี ในประเทศฮอลแลนด์ ซึ่งเขานั้นทำประตูได้อย่างถล่มทลาย 46 นัด 42 ประตู จนทำให้สโมสรชื่อดังอย่างบาเซโลน่า จากประเทศ สเปน ควักเงินเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น ซื้อตัวโรนัลโด้มาร่วมทีม นับจากนั้นทั่วโลกก็ได้รู้จักกับคำว่า ปรากฏการณ์ เพราะว่าเขานั้นเดินหน้าถล่มทลายประตูเป็นว่าเล่น และสามารถพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกและแชมป์บอลถ้วยในสเปน ก่อนที่จะเป็นสโมสรอินเตอร์ มิลาน ที่ตัดสินใจทุบสถิติโลกในการซื้อตัว โรนัลโด้ มาร่วมทีม และก็ไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิม เขาเดินหน้ายิงประตูมากมาย จนสามารถคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้ในปี 97 แต่ก็เกิดเรื่องน่าช็อคขึ้นเมื่อเขานั้นได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าในปี 1999 ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็หายหน้าหายตาไปนานพอสมควร จนมาสร้างชื่ออีกครั้งในฟุตบอลโลกปี 2002 ซึ่งเขาพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ รวมถึงรางวัล บัลลงดอร์ ได้อีกครั้งในปีเดียวกัน ก่อนที่จะย้ายมาสร้างตำนาน กาลาติกลอส กับสโมสร เรอัล มาดริด และแน่นอนว่าสิ่งที่จะหยุดเขาได้มีเพียงหัวเข่าของเขาเท่านั้น เพราะเขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเรื่อยมา จนกระทั่งฟอร์มการเล่นของเขาลดลงเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าเขาจะย้ายทีมไปไหน ฟอร์มการเล่นของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าช่วงพีคอีกเลย
ต้องบอกว่าเป็นโชคดีของแฟนบอลที่ได้ทันดูความสุดยอดของนักเตะเหล่านี้ ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน รวมถึงในยุคปัจจุบัน ก็มี สุดยอดนักเตะ ที่ขึ้นชื่ออย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมไปถึงว่าที่นักเตะที่จะมาเป็น สุดยอดนักเตะ ของโลกในอนาคต อย่าง เอ็มปัปเป้ และ ฮาแลนด์ แต่แฟนบอลของยุคอดีต รวมถึงยุคปัจจุบันนั้น ก็ยังไม่ลืมชื่อของ สุดยอดนักเตะ ในยุคอดีตเหล่านี้ และถ้าหากจะถามว่า ใครคือ สุดยอดนักเตะ เบอร์ 1 ของโลกตลอดกาล คงจะเป็นคำถามที่ตอบยากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Pel%C3%A9
https://en.wikipedia.org/wiki/Johan_Cruyff
https://en.wikipedia.org/wiki/Diego_Maradona
https://en.wikipedia.org/wiki/Ronaldo_(Brazilian_footballer)
https://www.transfermarkt.com/pele/profil/spieler/17121
https://www.transfermarkt.com/johan-cruyff/profil/spieler/8021
https://www.transfermarkt.com/diego-maradona/profil/spieler/8024